สาวซีวิคปัด 2 ข้อหา ศาลนัดสืบพยาน 27 ต.ค.
สาวซีวิคขึ้นให้การต่อศาล คดีชนรถตู้ 9 ศพ (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ , ครอบครัวข่าว 3
สาว 17 ขึ้นสอบคำให้การที่ ศาลเยาวชน ในคดีขับรถซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพ โดยมีญาติผู้ตาย เป็นโจทก์ฟ้องคดี
วันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่ห้องพิจารณาคดี หน้าศาลเยาวชนและครอบครัว การนัดสอบคำให้การในคดีที่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา ยื่นฟ้อง น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี จำเลยในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือได้รับอันตรายต่อร่างกาย บาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินเสียหาย จากกรณีที่ น.ส.เอ ขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิคสีขาว เฉี่ยวชนท้ายรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต จำนวน 9 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมกับข้อหาใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553
โดยในวันนี้ น.ส.เอ ได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว ขณะที่ห้องพิจารณาคดีในวันนี้ ศาลได้นัดพร้อมคู่ความ เพื่อสอบคำให้การทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ โดยญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ราย ยื่นขอเป็นโจทก์ร่วมในคดี ขณะที่ฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ และร่วมฟังการสอบคำให้การในวันนี้ด้วย
ทั้งนี้ ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟัง พร้อมแจ้งข้อหาทั้ง 2 ข้อหา ซึ่ง น.ส.เอ ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ในวันที่ 27 ต.ค.54 เวลา 09.00 น.
[30 พฤษภาคม] อัยการ เผย สาวซีวิคผิด ใช้มือถือขณะขับรถ (ไอเอ็นเอ็น)
พนักงานอัยการ เผย สั่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ สาวขับซีวิค เพิ่มอีก 1 ข้อหา
ความคืบหน้า การพิจารณาสำนวนคดี สาวอายุ 17 ปี ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค ชนท้ายรถตู้โดยสาร บนทางด่วนโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อค่ำ วันที่ 27 ธันวาคม 2553 โดยสาววัย 17 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาท ชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหายและมีผู้ถึงแก่ความตาย และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พนักงานอัยการ ที่ดูแลสำนวน เปิดเผยว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน ได้ส่งสำนวนที่ทำการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาให้ พนักงานอัยการ พิจารณาแล้ว พบว่า คนขับรถตู้คู่กรณี ไม่มีความประมาทในการขับรถขณะเกิดเหตุ ส่วนสาววัย 17 ปี นั้นมีการใช้โทรศัพท์มือถือในวันเกิดเหตุ ดังนั้น อัยการ จึงสั่งให้ พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน มีอำนาจลงโทษปรับได้ทันที แต่มีข้อแม้ว่า สาววัย 17 ปี จะต้องรับสารภาพและยินยอมให้ลงโทษปรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 144 เมื่อเปรียบเทียบปรับแล้ว จึงนำมาประกอบในสำนวน แต่หากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ต้องนำมาประกอบไว้ในสำนวนเช่นกัน เพื่อใช้ประกอบในการร่างคำฟ้องยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป
[18 พฤษภาคม] ศาลเผยสาวซิ่งซีวิค ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจริง
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว เผยคดีสาวซิ่งซีวิคชนรถตู้โดยสารเสียชีวิต 9 ศพ พบมีการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจริง พร้อมรับผลสอบกรณีการขับรถตู้แล้ว
[8 มีนาคม] ทนายสาว17รถตู้9ศพชี้ต้องขึ้นศาลยังไม่ผิด
ทนายของสาว17 กรณี รถตู้ 9 ศพ เผย คืบหน้าทางคดีว่า หลังออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ พนักงานสอบสวน ส่งฟ้องแก้อัยการแล้วนั้น ออกฉบับ 3 ยังบอกไม่ได้ว่า ทำผิด ต้องขึ้นกระบวนการศาลก่อน
นายพิทยา ปักเข็ม ทนายความของ น.ส.แพรวา ผู้ต้องหาขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนกับรถตู้ บนทางด่วนโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า หลังจากที่ทีมทนายความ ได้ทำการออกแถลงการณ์เพื่อทำความเข้าใจ และชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวจำนวน 2 ฉบับ และพนักงานสอบสวน ได้ส่งฟ้อง น.ส.แพรวา ต่อพนักงานอัยการไปแล้วนั้น
ล่าสุดทีมกฎหมาย น.ส.แพรวา ได้ออกแถลงการณ์อีก เป็นฉบับที่ 3 เพื่อชี้แจงให้ทราบว่า ในกรณีที่มีการส่งฟ้องไปแล้ว ก็เป็นความเห็นและเป็นกระบวนการของพนักงานสอบสวนในชั้นต้น ซึ่งยังไม่อาจรับฟังเป็นที่ยุติว่า ผู้ต้องหาเป็นฝ่ายผิดตามที่ถูกกล่าวหา เพราะศาลยังต้องพิจารณา และทำการสืบพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนตัดสินไปตามกระบวนความ ดังนั้นในส่วนคดีความ เมื่อผู้ต้องหาได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว หากมีการฟ้องร้องไม่ว่าจะเป็นคดีอาญา หรือ คดีแพ่งก็จะต้องดำเนินการต่อสู้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ส่วนผลของคดีจะเป็นเช่นไรนั้น คงต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลต่อไป และทีมกฎหมายจะขอยุติการออกแถลงการณ์ชั่วคราว เพื่อจัดเตรียมพยานหลักฐานในการขอต่อสู้คดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น